ความลับของเพชรและร้านรับซื้อเพชรในไทย

การใช้คำเรียก “เพชร” เริ่มต้นมาจากภาษาสักสกฤต เจอะเจอในเอกสารเก่าแก่ ของประเทศอินเดีย

เรียกเพชรว่า “วัชระ” หรือสายฟ้า ดังนั้น คำว่า  “เพชร” จากอินเดีย สู่ไทย จึงกลายจาก “วัชระ”

มาเป็น “พัชร” และ “พชร” จวบจนกระทั่ง “เพชร” ในที่สุดนั้นเอง ในทางไตรปิฎกได้มีการอ้างถึง รัตนชาติมงคลเอาไว้ 7 ประเภท ตัวอย่างเช่น

  1. สุวณฺณํ คือ ทอง
  2. รชตํ คือ เงิน
  3. ปวาฬ คือ แก้วประพาฬ
  4. มณิ คือ แก้วมณี
  5. เวฬุริยํ คือ แก้วไพฑูรย์ หรือ เพชรตาแมว
  6. มุตตา คือ แก้วมุกดา
  7. วชิรํ คือ เพชร

จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ มนุษย์รู้จักเพชรมายาวนานแล้ว แต่ถ้าว่าไม่มีใครสามารถรู้ได้ว่าเราเริ่มตั้งแต่ เมื่อใด ในช่วงแรกๆ ผู้คนใช้เพชร ในการพกพาประจำตัวไป ให้มีความคลาดแคล้วปกปักรักษาผลร้ายที่อุบัติขึ้น เชื่อว่าเพชรมีพลังในตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ครั้งสวมเพชรไว้ทางด้านซ้ายมือ เพชรจึงมักถูกใช้เป็น ของขลังยิ่งกว่าเป็นเครื่องประดับ ดังนั้นในอดีตกาลจึงมีแต่ชายหนุ่ม ที่สวมเพชรมากว่า เพศหญิง

เพชรเป็นอัญมณีที่มีความเชื่อเกี่ยวข้องด้วยเยอะแยะ อาทิเช่น ราชินีแมรี่ แห่งสกอตแลนด์ ทรงเชื่อว่า พระธำมรงค์เพชร ที่พระนางใส่อยู่ สามารถดูแลพระนางให้หลุดพ้นจากการถูกลอบปลงพระชนม์ได้ ทว่าพระนางถูกพระราชินีเอลิซาเบธที่ 1 แห่งอังกฤษทรงสำเร็จโทษ ด้วยการประหารชีวิต

อีกตำนานนึงโบร่ำโบราณได้กล่าวไว้ว่า เพชรมีแหล่งเกิดมาจากกระดูกยักษ์ชื่อ มหาพลสูตร ที่คิดจะทำพิธีอดอาหาร เพื่อเป็นเกียรติ ให้อุบัติในแผ่นดิน พอครบ 7 วัน ก็สิ้น เทวดาจึงพาโครงกระดูกไปฝังไว้ทุกๆ ที่ ก็อุบัติกลับเป็นเพชรรัตน์

สำหรับผู้ใดที่พึงปรารถนาซื้อขายเพชร petchtong.com เป็นอีกช่องทางที่ดีสำหรับคนที่พึงประสงค์ซื้อขายเกี่ยวกับเพชร เนื่องมาจาก petchtong.com รับซื้อเพชรและอัญมณีอื่นๆ ในสนนราคาที่ดี